What's happening?

Video Sources 273 Views Report Error

  • The Sea Beast (2022) อสูรทะเล

Synopsis

The Sea Beast อสูรทะเล

มาสู่อีกหนึ่่งเรื่องราวการผจญภัยล้ำจินตนการระหว่างโลกมนุษย์ที่เต็มไปด้วยอสูรใหญ่ยักษ์ และนี่คือ “The Sea Beast อสูรทะเล” หนังแอนิเมชั่นออริจินัลเรื่องล่าสุดของเน็ตฟลิกซ์ ที่ถือว่าเป็นหนังการ์ตูนที่มาพร้อมกับพล็อตสูตรสำเร็จแต่เข้มข้นชวนติดตาม มาพร้อมกับเทคนิคงานสร้างและการสร้างสรรค์ออกแบบที่สมจริงน่าขนลุก นับว่าเป็นหนังที่อยู่นอกสายตาผู้ชมไม่น้อยทีเดียว The Sea Beast (2022) อสูรทะเล ดูหนังnetflix

The Sea Beast ทะเลอสูร ดูหนังออนไลน์ เป็นเรื่องราวในยุคที่อสูรน่าสะพรึงกลัวเพ่นพ่านอยู่ทั่วท้องทะเล เหล่านักล่าสัตว์ประหลาดต่างได้รับการยกย่องให้เป็นฮีโร่ หนังใหม่ และสุดยอดฮีโร่ผู้เป็นขวัญใจของใครๆ ก็คือ เจค็อบ ฮอลแลนด์ แต่เมื่อเด็กน้อย เมซี่ แบรมเบิล หนังฟรี แอบขึ้นเรือในตำนาน ดูหนัง เขาจึงต้องเจอกับพันธมิตรที่ไม่คาดคิด ทั้งคู่จะออกเดินทางครั้งสำคัญสู่น่านน้ำที่ไม่มีใครเคยไปและร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ ดูหนัง

The Sea Beast (2022) อสูรทะเล

ดูหนัง นี่คือผลงานล่าสุดของอดีตลูกศิษย์จาก วอลต์ ดิสนีย์ อย่าง “คริส วิลเลียมส์” ผู้ที่เคยสร้างหนังปัง ๆ อย่าง Bolt หรือ Big Hero 6 ออกมาเป็นที่น่าจดจำนั่นเอง โดยในครั้งนี้เขายังคงควบหน้าที่ร่วมเขียนบทหนังด้วย ดูหนังออนไลน์ แม้ว่าจะมาพร้อมกับองค์ประกอบของสูตรสำเร็จแบบจำเจเดิม ๆ ในหมวดหนังแอนิเมชั่นก็ตาม เหมือนกับนำเอานิทานและตำนานคลาสสิกต่าง ๆ มาปรุงแต่งใหม่ ออกมาเป็นรสชาติที่ยังกลมกล่อมกำลังพอดี ดูหนังฟรี

น่าประหลาดใจไม่น้อย ที่ไม่ว่าจะเป็นหน้าหนังหรือทีเซอร์ตัวอย่างหนังของ The Sea Beast ไม่ค่อยจะดึงดูดใจผู้ชมได้สักเท่าไหร่ เพราะภาพที่ออกมาเหมือนจะเป็นหนังแอนิเมชั่นเด็ก ๆ ธรรมดาทั่วไป แต่วลีที่ว่า “อย่าตัดสินจากเพียงแค่ภายนอก” น่าจะเหมาะกับหนังเรื่องนี้ เพราะเนื้อในและเนื้อแท้ของหนังเรื่องนี้ถือว่าถ่ายทอดออกมาได้ดีกว่าที่คิดเอาไว้ และสนุกกว่านี่คาดหมายเอาไว้เลยทีเดียว

สิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจมาก ๆ ใน The Sea Beast ก็คือเทคนิคงานสร้างในหนังเรื่องนี้ แม้ว่างานออกแบบตัวละครและคาแรกเตอร์มนุษย์ในหนังจะทำออกมาได้ค่อนข้างธรรมดา ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก แต่ผู้ชมก็ต้องตื่นตาตื่นใจไปกับงานออกแบบสร้างฉากแอคชั่นสู้รบ รวมทั้งฉากธรรมชาติ-ท้องทะเลที่สมจริงแบบชวนขนลุกไม่น้อย นับตั้งแต่เปิดฉากแรกออกมาของหนัง

ขณะที่งานออกแบบอสูรต่าง ๆ ถือว่าทำออกมาได้น่าพอใจ อาจจะไม่ได้น่าเกรงขามจริงจังอะไร เพราะนี่คือหนังแอนิเมชั่นผจญภัยสดใสเรื่องหนึ่ง ทำให้เหล่าอสูรใหญ่ยักษ์ในเรื่องนี้อาจจะไปในทางแต่งเติมเสริมจินตนาการมากกว่า ให้อารมณ์เป็นความน่ารักน่ากอดประมาณนั้น เพราะหากว่าหนังเรื่องนี้ดังขึ้นมา ก็น่าจะสามารถนำเอาไปแตกยอดสร้างเป็นผลิตภัณฑ์คาแรกเตอร์ต่าง ๆ ออกมาให้น่าจดจำและขายได้เลย

The Sea Beast เปิดเรื่องมาได้อย่างน่าตื่นเต้น The Sea Beast (2022) อสูรทะเล

เพราะฉากสู้รบกลางสมุทรที่น่าประทับใจ ให้อารมณ์เหมือน ๆ กับแฟรนไชส์หนังดังอย่าง Pirates of the Caribbean อะไรทำนองนั้นเลยทีเดียว แม้ว่าอาจจะน่าเสียดายที่หนังค่อนข้างยืดยาวไปสักหน่อย หนังการ์ตูนที่มีความยาวเกือบจะ 2 ชั่วโมง น่าจะไม่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ซื้อใจเฉพาะเด็ก ๆ แน่ แต่กระนั้นก็พลอยทำให้การเดินเรื่องในยาวกลาง ๆ ค่อนข้างช้าและเนือยไปสักหน่อย เมื่อมาอยู่กับพล็อตปรุงสำเร็จแบบเดิม ๆ

เพราะสุดท้ายแล้ว The Sea Beast ก็ม้วนจบเรื่องราวแบบขายได้ที่ไม่มีความแปลกใหม่อะไร มอบแง่คิดและปรับทัศนคติมุมมองแนวคิดของตัวละคร แต่ข้อความที่หนังสื่อสารออกมานั้น กลายเป็นฉากจบที่ช่างทรงพลังเกินกว่าที่คิดว่าหนังการ์ตูนเรื่องหนึ่งจะส่งข้อความออกมาแบบนั้น หนังยังถือว่ามอบประสบการณ์และอรรถรสความเพลิดเพลินได้ดีตลอดทาง เพราะอย่างน้อย ๆ การนอนดูหนังแอนิเมชั่นงานสร้างแจ่ม ๆ แบบเรื่องนี้ก็ถือว่าสร้างคาวมประทับใจได้อย่างคุ้มค่าดีแล้ว

เอาเป็นว่าโดยภาพรวมนั้น The Sea Beast ถือว่าเป็นหนังนอกสายตาที่ทำออกมาได้เรียกความสนใจได้ดี แม้พล็อตเรื่องต่าง ๆ จะค่อนข้างเชยและซ้ำซากไปหน่อยก็ตาม แต่การผจญภัยครั้งนี้ก็ยังมีลูกเล่นและเทคนิคต่าง ๆ

ที่น่าประทับใจดี แม้ว่าทีมพากย์เสียงของเรื่องนี้จะไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก ทั้ง “คาร์ล เออร์บัน”, “แดน สตีเวนส์” หรือ “จาเรด แฮร์ริส” ก็มอบงานให้เสียงได้ตามมาตรฐานที่น่าพอใจดี และอยากจะเชียร์จริง ๆ ว่า…นี่คือหนังที่ไม่อยากให้พลาดเรื่องหนึ่งในปีนี้

หลังจากปล่อยสตรีมมิงไปแล้วเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมาในที่สุด ‘The Sea Beast’ หรือในชื่อไทย ‘อสูรทะเล’ แอนิเมชันที่ผสมผสานระหว่างแนวโจรสลัดผจญภัยเข้ากับหนังไคจูตีกันฉบับแบ๊ว ๆ ก็ขึ้นอันดับ 1 ในบริการสตรีมมิงอย่างเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ไปเรียบร้อย ซึ่งหลายคนคงสงสัยล่ะว่ามันมีดียังไงและคุ้มค่ากับการใช้เวลาวันหยุดยาวนี้ในการตีพุงอยู่บ้านดูมันหรือเปล่า เรามีคำตอบมาให้ในรีวิวนี้แล้ว

เรื่องราวเริ่มต้นที่ภาพอดีตในคืนอันมืดมิดกลางท้องทะเลอันแสนน่าสะพรึงกลัว เด็กชายคนหนึ่งได้เกาะท่อนไม้จากเรืออับปางและทันใดนั้นเขาก็ได้เผชิญหน้ากับอสูรกลางท้องทะเลเป็นครั้งแรก ก่อนที่หนังจะตัดไปที่เสียงเล่านิทานปรัมปราจากเมซีเด็กสาวในบ้านเด็กกำพร้าที่ใฝ่ฝันในวิถีแห่งนักล่าอสูร และโชคชะตาก็เข้าข้างเธอเมื่อเรือล่าอสูรนาม ‘Inevitable’ มาจอดเทียบท่าเพื่อเคลมเงินรางวัล งานนี้เธอจึงแอบลักลอบขึ้นเรือในตำนานและได้พบกับเจคอบ ฮอลแลนด์ ฮีโรในหนังสือของเธอ

The Sea Beast (2022) อสูรทะเล

แต่หลังจากเหตุการณ์อสูรแดงคำรามบุกเรือจนทำให้เมซีกับเจคอบระหกระเหินอยู่กลางทะเล พวกเขากลับได้พบมิตรภาพที่ไม่คาดคิดจากอสูรที่พวกเขาเคยกลัว การผจญภัยครั้งใหม่ระหว่างอสูรแดงคำรามและนักล่าอสูรกับเด็กน้อยได้เริ่มขึ้นท่ามกลางอันตรายจากเรือนักล่าอสูรที่อาจไม่เข้าใจในมิตรภาพครั้งนี้

ถึงแม้จะเป็นแอนิเมชันที่เน็ตฟลิกซ์เป็นเจ้าของทุนเอง แต่ทีมงานเบื้องหลังก็ไม่ได้ไก่กาอาราเล่แต่อย่างใด เพราะได้ คริส วืลเลียมส์ (Chris Williams) The Sea Beast (2022) อสูรทะเล

ผู้กำกับแอนิเมชันลูกหม้อดิสนีย์ (Disney) ที่เคยมีผลงานกำกับ ‘Big Hero 6’ มาแล้ว และก็ต้องยอมรับว่าวิลเลียมส์สามารถผสมผสานหนังแนวผจญภัยกลางท้องทะเลกับสัตว์ประหลาดไคจูบุกเมืองเข้ากันอย่างกลมกล่อมลงตัว เล่าเรื่องราวได้สนุกสนาน บันเทิง ไม่ค่อยมีช่วงน่าเบื่อสักเท่าไหร่ได้ดีเลยล่ะ

The Sea Beast (2022) อสูรทะเล

โดยจุดเด่นของเรื่องราวที่วิลเลียมส์ได้ร่วมเขียนส่วนหนึ่งก็คือการพิสูจน์และตั้งคำถามกับธรรมเนียมของประวัติศาสตร์ที่มักยกมนุษย์เป็นฮีโรผู้กอบกู้โลก หรือกระทั่งเขียนให้ชาวอารยันหรือกลุ่มคนขาวเป็นวีรบุรุษดังนั้นแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องใหม่โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ของเน็ตฟลิกซ์ที่ชอบให้ตัวเอกมีชาติพันธุ์ที่หลากหลาย แต่การให้ตัวเอกเป็นสาวน้อยผิวสีก็ถือว่าเล่าเรื่องได้ร่วมสมัยมากขึ้น อีกทั้งยังให้คาแรกเตอร์ของเด็กดูฉลาดกว่าผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ เลยทำให้ภาพรวมของหนังออกมาน่ารัก ดูได้ทั้งครอบครัวเลยทีเดียว

อีกจุดที่น่าคิดไม่น้อยคือการยกประเด็นของกษัตริย์มาพูดถึงในแง่องค์อุปถัมภ์การล่าปีศาจที่มองได้ตั้งแต่การเป็นชนชั้นปกครองที่ใช้ความกลัวเลี้ยงอำนาจตัวเองไปจนถึงการก่อระบบศักดินา ซึ่งมีเนื้อหาตอนหนึ่งที่ราชินีพูดถึงกองเรือล่าปีศาจของกษัตริย์เพื่อหวังจะดับฝันและไม่ต้องพึ่งพาเหล่านักล่าปีศาจอาชีพอีกต่อไป จนเกิดการแข่งขันล่าปีศาจขึ้นระหว่างเหล่าตัวเอกกับทหารของกษัตริย์ ซึ่งหากหนังเล่นประเด็นไปไกลกว่านี้เราอาจได้เห็นการวิพากษ์ระบอบการปกครองที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่กระนั้นตัวหนังเองก็ยังติดเรื่อง ‘ท่าบังคับ’ หลายอย่างที่พามันไปไม่ถึงจุดที่จะทำให้ตัวหนังน่าจดจำกว่านี้ทั้งเหตุผลที่เปลี่ยนใจให้เจคอบผูกมิตรกับอสูรทะเล ที่อาศัยแค่ความไร้เดียงสาของเมซี หรือกระทั่งจุดที่น่าเสียดายมาก ๆ อย่างคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจของลูกเรือ ‘Inevitable’ อย่างซาราห์ ชาร์ป ต้นหนเรือสาวสุดเท่ที่มีบุคลิกดูห้าว ๆ และน่าจะเป็นภาพลักษณ์ของฮีโรผู้หญิงในเรื่องได้แต่บทกลับยังดันคาแรกเตอรนี้ไปได้ไม่สุดเท่าไหร่

แต่กระนั้นหากเทียบกับคุณภาพแอนิเมชันในภาพรวมนอกจากบทหนังที่เล่าได้สนุกสนานตามท้องเรื่อง ฉากแอ็กชันที่ทำได้ตื่นตาและรวมไปถึงงานภาพที่ได้คุณภาพไม่ต่างจากแอนิเมชันฉายโรงผสมบางช่วงตอนที่คล้ายภาพจากวิดีโอเกมคุณภาพสูงแล้ว ข้อเสียที่กล่าวมาก็อาจไม่ได้ส่งผลกับตัวหนังสักเท่าไหร่เพราะในเวลา 115 นาทีมันก็ให้ทุกอย่างครบถ้วนทั้งความสนุกสนานจากฉากผจญภัย ความน่ารักของอสูรตัวน้อยที่มองนาน ๆ อาจใจละลายก็พอจะยกประโยชน์ให้จำเลยได้แม้ตอนจบของมันจะไม่ได้เหนือความคาดหมายหรือแปลกใหม่เท่าไหร่ก็ตาม

แบบไม่สปอยล์ แอนิเมชันเรื่องล่าสุดจากทางสตรีมมิ่งชื่อดังอย่าง Netflix ที่กำลังมาแรงแซงหน้าแอนิเมชันจากค่ายใหญ่ ๆ ที่เราคุ้นเคยกันดี กับการเล่าเรื่องราวแบบฉบับที่คนดูต้องร้องว้าวแม้จะมีกลิ่นอายไม่ต่างจากแอนิเมชันเรื่องดังเรื่องอื่น ๆ ก็ตาม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง The Sea Beast (อสูรทะเล) ที่ได้เครดิตจากผู้กำกับมือดีอย่าง Chris Williams (Bolt 2008, Big Hero 6 2014 และ Moana 2016) ที่กระตุ้นความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ให้น่าดูมากขึ้นไปอีก ทำให้คนดูได้ร่วมลุ้นไปพร้อมกันว่าภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้จะ รุ่ง หรือ ร่วง กันแน่ แต่ที่รู้ ๆ The Sea Beast นั้นก็ได้เข้าไปอยู่ในความสนใจของผู้ชมทั่วโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เรื่องราวของตัวละครเด็กหญิงกำพร้าชื่อว่า Maisie ที่หลงใหลในการเป็นนักล่าอสูรทะเล เนื่องจากมี Jacob Holland ลูกเรือของกัปตัน Crow หนึ่งในนักล่าอสูรมือฉมังเป็นไอดอล โดยในวันหนึ่ง Maisie ได้แอบขึ้นเรือของเหล่านักล่าอสูรเพื่อหวังจะไปติดตามการล่า “เจ้าแดงคำราม” อสูรทะเลในตำนานที่ดุร้าย แต่เมื่อเรือเริ่มออกจากท่า เรื่องการผจญของเด็กหญิงกับชายหนุ่มนักล่าอสูรก็เริ่มต้นขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเรื่องกลับพลิกผันไปในทางที่ไม่มีใครคาดถึง

หากใครยังจำได้ดี ในช่วงปี 2010 ทางสตูดิโอผู้สร้างอย่างค่าย DreamWorks Animation ก็ได้ปล่อยภาพยนตร์แอนิเมชันสุดเท่เรื่อง How To Train You Dragon (อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร) ออกมาให้ผู้ชมได้ลิ้มรสตำนานไวกิ้งกันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งในปี 2014 เรื่อง Cloudy with a Chance of Meatballs 2 (มหัศจรรย์ ของกินดิ้นได้) ก็กลับมาฉายโรงเรียกยอดคนดูได้อีกครั้งด้วยธีมเรื่องสุดกาวไม่ต่างจากภาคแรก โดยทั้ง 2 เรื่องที่กล่าวมาไม่มีความยึดโยงใด ๆ กับเรื่อง The Sea Beast (อสูรทะเล) เลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งค่ายผู้สร้างและผู้กำกับ รวมไปถึงนักแสดงผู้ให้เสียงพากย์ในเรื่องด้วย

แต่เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว อาจทำให้ใครหลายคนเริ่มย้อนกลับไปคิดถึงเนื้อเรื่องของ How To Train You Dragon (อภินิหารไวกิ้งพิชิตมังกร) และเรื่อง Cloudy with a Chance of Meatballs 2 (มหัศจรรย์ ของกินดิ้นได้) ว่าทั้ง 2 เรื่องนั้นเป็นแอนิเมชันที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร ซึ่งธีมหลักของเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมด รวมถึงเรื่อง The Sea Beast (อสูรทะเล) ด้วยแล้ว

Director

Director

Cast

Similar titles

The Accountant อัจฉริยะคนบัญชีเพชฌฆาต
Dragon Ball Z Resurrection F ดราก้อนบอลแซด การคืนชีพของฟรีสเซอร์
A Legend พลิกตำนานฟัดทะลุเวลา (2024)
Fast and Furious 9 : The Fast Saga (2021) เร็วแรงทะลุนรก ภาค 9
Perfect Blue เธอกับฉันและฝันของเรา (1997) บรรยายไทย
Batman Unlimited Mech vs. Mutants ศึกจักรกลปะทะวายร้ายกลายพันธุ์
O Lucky Man
Tensei Shitara Slime Datta Ken: Guren no Kizuna-hen (2022) สไลม์ เดอะมูฟวี่ สายสัมพันธ์สีชาด
Mortal Kombat Legends: Cage Match (2023) บรรยายไทย
500 Days of Summer ซัมเมอร์ของฉัน 500 วันไม่ลืมเธอ
American Hustle (2013) โกงกระฉ่อนโลก
Journey to China-The Mystery of Iron Mask (2019) อภินิหารมังกรฟัดโลก สงครามล้างคำสาปอสูร 2

Leave a comment

Name *
Add a display name
Email *
Your email address will not be published