โรมาง แกฟราส (Romain Gavras) คือชื่อของผู้กำกับเลือดใหม่ที่สร้างชื่อมาจาก MV ดูหนังออนไลน์ เพลงดัง ๆ อย่าง ‘Bad Girls’ ของศิลปิน เอ็มไอเอ (M.I.A.) และบรรดาโฆษณาน้ำหอมแบบนึกถึงแบรนด์ไหน แกฟราส ทำมาหมดแล้ว ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022 และเมื่อปี 2018 เขาก็เพิ่งมีหนังเรื่องที่ 2 อย่าง ‘The World is Yours’ หนังคอมเมดี้อาชญากรรมลูกเล่นแพรวพราวฉายไป แต่ปี 2022 ดูหนังฟรี นี้เขากลับมาพร้อมกับ ‘Athena’ หนังไฮคอนเซ็ปต์สุดเดือดที่ว่ากันถึงสงครามชนชั้นที่ฝังรางลึกในสังคมฝรั่งเศส Athena (2022) บ้าระห่ำ ดูหนัง
หนังเริ่มต้นด้วยเสียงจากข่าวที่กล่าวถึงเหตุตำรวจรุมทำร้ายเด็กชายอายุเพียง 13 ปี และเมื่อเห็นทีว่าตำรวจจะปล่อยเกียร์ว่าง คาริม (รับบทโดย ซามี ซลีมาน Sami Slimane) จึงนำเหล่าประชาชนของชุมชนเคหะ เอธีนา บุกปล้นอาวุธและก่อสงครามกับทางการเพื่อหาตัวคนรับผิดชอบการตายของน้องชาย โดยมี อับเดล (รับบทโดย ดาลี เบนส์ซาลาห์ Dali Benssalah) ทหารที่เป็นพี่ชายของคาริมพยายามยุติเหตุนองเลือดดังกล่าวท่ามกลางไฟแค้นของประชาชนที่กำลังถูกโหมกระพือด้วยการกระทำของทางการ
หากวัดจากงานภาพอย่างเดียว ‘Athena’ คือภาพยนตร์ที่ท้าทายขีดจำกัดในการถ่ายทำแบบไร้ขอบเขตจริง ๆ หลายช็อตที่ถ่ายออกมารู้เลยว่าใช้ตากล้องที่มีทักษะสูงมาก ๆ โดยเฉพาะซีนเปิดเรื่องที่เบื้องหลังแสดงให้เห็นว่ามีการรับส่งกล้องกันแบบเสี่ยงตายแค่ไหน ไปจนถึงการดีไซน์ฉากสงครามที่มีทั้งพลุแฟลร์และระเบิด ก็ทำให้ภาพที่ออกมาดูอีพิค ยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ชวนให้นึกถึงสารเรื่องการต่อสู้ด้านชนชั้นที่งานภาพสื่อสารได้อย่างชัดเจนและลุ่มลึก
เพราะทั้งเรื่องเราจะเห็นแค่ว่า คาริมและพวกพยายามคิดกลยุทธิ์ที่เริ่มดาร์กขึ้นตั้งแต่รวบรวมอาวุธประจันบานกับตำรวจจนถึงการจับตำรวจมาเป็นตัวประกัน เหมือนคนขาดสติเข้าไปทุกที และยิ่งหนังวางจุดพลิกผันแบบเลี้ยวโค้งหักศอกขนาดนี้ก็ยิ่งทำให้เหตุและผลในการกระทำของตัวละครไม่มีพลังมากพอที่จะขับธีมเรื่องของความอยุติธรรมในสังคมให้ออกมาทรงพลังอย่างที่มันตั้งใจไว้ได้
แต่กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าแม้ตัวเนื้อหาโดยรวมของมันจะยังไม่ลงตัวนัก แต่หากจับแยกส่วนจะพบว่ามันมีองค์ประกอบหลายอย่างเหลือเกินที่ยังทำให้ ‘Athena’ เป็นภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การรับชมทั้งการกำกับซีนแอ็กชันที่เรากล่าวถึงไปแล้ว ไปจนถึงการออกแบบการเล่าเรื่องที่พยายามเน้นการถ่ายแบบลองเทคจนเหมือนเราได้เข้าไปอยู่ร่วมการต่อสู้กับประชาชนชาวเคหะเอธีนาด้วย และยังมีการออกแบบตัวละครที่น่าสนใจหลายตัวโดยเฉพาะการมีอยู่ของ ดาลี เบนส์ซาลาห์ ที่รับบทอับเดล ทหารที่เป็นชาวเคหะเอธีนาที่ต้องเลือกทางเดินอันแสนยากลำบากทั้งหน้าที่การงานและการทวงความยุติธรรมเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้อง และเบนส์ซาลาห์ก็ให้การแสดงที่เราแทบละสายตาไม่ได้จริง ๆ
Athena เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์เหตุจลาจลที่ลุกลามบานปลายขึ้นในพื้นที่เมืองของฝรั่งเศส โดยมีจุดเริ่มต้นจากไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ที่มีภาพคลิปหลุดแชร์ออกไปในโซเชียลมีเดีย พบเห็นเด็กหนุ่มถูกกลุ่มชายในชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายและปล่อยเสียชีวิต เป็นชนวนเหตุทำให้ผู้คนในชุมนุมอเธน่าลุกฮือขึ้นมาเรียกร้องความเป็นธรรม โดยมีพี่ชายทั้ง 2 คนของเด็กคนหนึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนทิศทางในเหตุการณ์โกลาหลครั้งนี้
ก่อนอื่นใด ๆ ผู้เขียนรีวิวนี้อาจจะต้องขอออกตัวก่อนว่าอาจจะไม่ค่อยมีประสบการณ์กับหนังฝรั่งเศสมากเท่าไหร่นัก แม้ว่าจะเคยแวะเวียนไปดูอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ช่ำชองและคลุกคลีกับวงการหนังที่นั่นสักเท่าไหร่ โดยปกตินั้นเรามักจะได้เห็นหนังฝรั่งเศสออกแนวดราม่าที่มีกลิ่นอายเสียดสีสังคมและการเมืองอยู่บ่อยครั้ง แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ก็จัดมาในทิศทางนั้นเต็ม ๆ
ผลงานของผู้กำกับ “โรแมง แกฟราส” ที่ต้องบอกว่าไม่ค่อยคุ้นกับผลงานสักเท่าไหร่ เพราะเขาเองก็เพิ่งจะกำกับหนังยาวมาก่อนหน้านี้แค่ 2 เรื่อง อาจจะคุ้น ๆ กับ The World Is Your แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ดู สไตล์งานของผู้กำกับรายนี้มักจะหยิบเอาประเด็นดราม่าอาชญากรรมมาเล่นอยู่บ่อย ๆ และการมาของ Athena ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่ทิ้งลวดลายแบบเฉพาะของเขาเช่นเดียว
ผู้กำกับที่รับหน้าที่ร่วมเขียนบทหนังเรื่องนี้ ถือว่าหยอดใส่ไอเดียแนวกระทบกระทั่งกับด้านล่อแหลมเปราะบางเกี่ยวกับวงการผู้ทักษ์สันติราษฎร์ของฝรั่งเศสใส่เข้ามา ซ้ำยังสอดแทรกประเด็นความขัดแย้งภายในประเทศของฝรั่งเศส ที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำและการฝักใฝ่ทางการเมืองในแนวคิดที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นปมสะสมในสังคมบ้านเขามายาวนานตั้งแต่ในอดีต
Athena ยังหยิบใส่ประเด็นเรื่องความแตกต่างด้านเชื้อชาติและศาสนาที่สะท้อนถึงกลุ่มผู้อพยพที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในประเทศ ท่ามกลางการสู้รบปรบมือกับกลุ่มที่ไม่เห็นชอบและเหยียดเชื้อชาติภายในประเทศ หล่อรวมออกมาเป็นหนังจลาจลสุดเข้มข้น ที่โดดเด่นด้วยลีลาการเล่าเรื่องและองค์ประกอบการสร้างที่สร้างความตื่นตาให้กับผู้ชมตลอดเวลาชั่วโมงกว่า ๆ ของหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะการใช้กระสุนพลุที่กลายเป็นซีนที่มีสีสันที่ดุเดือด
แน่นอนว่าจุดเด่นของ Athena ก็คือการใช้เทคนิคการเล่าเรื่องแบบลองเทค (long take) ที่ลากช็อตยาว ๆ ต่อเนื่องกันไปในเหตุการณ์นั้น แม้ว่าจะไม่ได้ใช้เทคนิคยาวย้วยไปตลอดทั้งเรื่อง แต่ก็ถือว่าอยู่ในจังหวะจะโทนที่ค่อนข้างน่าพอใจ ไม่ใช่เป็นการยัดเยียดฉากวันเทคแบบขาด ๆ เกิน ๆ ให้กับผู้ชมมากเกินไป จนเสียอรรถรสและความต่อเนื่องของหนัง
หนังยังมีการตัดต่อเข้ามาช่วยเสริมอยู่บ้าง เพราะจะเลือกโฟกัสที่ตัวละครประมาณ 3-4 ตัวเป็นหลัก หากพูดกันตามตรงนั้น เทคนิคลองเทคเช่นนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียปะปนกันไปในหนังเรื่องนี้ อย่างน้อย ๆ หนังก็ถือว่าเล่าเรื่องออกมาได้สนุกและบิ้วท์อารมณ์ผู้ชมได้เป็นลำดับขึ้นเรื่อย ๆ ไปถึงปลายทางที่พีตไปถึงขั้นสุด และวันเทคก็ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่เร้าใจคนดูได้อยู่
แต่กระนั้นข้อด้อยของการใช้ลองเทคบ่อย ๆ เช่นนี้นั้น ก็เป็นการด้อยค่าหนังไปในตัวเช่นเดียว ในส่วนของการถ่ายทอดมุมมองของหนังที่ค่อนข้างแทบเกินไป และบางจุดก็ค่อนข้างซ้ำซากและไม่ค่อยน่าดึงดูดใจได้เท่าที่ควร และอาจจะเป็นปมที่ทำให้ในบางช่วงของหนังดูค่อนข้างน่าเบื่อ และคนดูก็ไม่สามารถจับได้ทันว่าตรงไหนของหนังเป็นหลักแหล่งสำคัญกันแน่ เพราะดูสไตล์เรื่องเหมือนจะเล่าไปเรื่อย ๆ ตามเส้นทางของมุมภาพ
ส่วนทางการด้านของแสดงนั้น แม้ว่าจะไม่เคยรู้จักและดูผลงานการแสดงของนักแสดงกลุ่มนี้มาก่อนก็ตาม แต่ก็ถือว่าพวกเขาถ่ายทอดอารมณ์และอินเนอร์ได้ค่อนข้างน่าพอใจ โดยเฉพาะ “ดาลิ เบนซ์ซาลาห์” ดาราหนุ่มลูกครึ่งแอลจีเรีย ที่กลายเป็นตัวละครที่แบกรับหนังทั้งเรื่องไปได้สุดทาง เช่นเดียวกับดาราใหม่ “ซามี ซลีมาน” ที่เป็นงานเดบิวต์ที่น่าประทับใจของเขาทีเดียว
โดยสรุปแล้วนั้น Athena ถือว่าเป็นหนังเหตุจลาจลจากฝรั่งเศสที่ถือว่าทำออกมาได้ดีไม่เบาทีเดียว จังหวะการเล่าเรื่องค่อนใช้ได้ การใช้วันเทคเป็นการถ่ายทอดนั้นไม่ยืดยานเกินไป ความเข้มข้นของเนื้อหาค่อนข้างหนักแน่นและชัดเจนดี แม้ว่าจะยังมีบางจุดประปรายที่ทำให้รู็สึกยังไม่อินตามไปด้วยหนังเท่าไหร่นัก แต่กระนั้นภาพรวมแล้วก็ถือว่าเป็นหนังนอกสายตาที่ให้ผลลัพธํออกมาได้เดือดกว่าที่คาดเอาไว้
รั้งแรกที่ผู้เขียนได้เห็นตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องนี้ ถึงกับต้องทึ่ง! ในไอเดียการเนรมิตรฉากที่ดูเหมือนเป็นการก่อจลาจลสุดอลังการ ผู้คนถูกแบ่งเป็นสองฝั่งระหว่างกลุ่มคนที่เป็นประชาชนธรรมดา กับกลุ่มตำรวจในเครื่องแบบที่ประจันหน้ากันท่ามกลางพลุไฟที่แหวกว่ายไปมาในอากาศ ในที่สุดก็ได้รู้เมื่อตัวอย่างจบลงว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ชื่อ Athena ของผู้กำกับชาวฝรั่งเศส Romain Gavras ที่ได้เข้าไปยลโฉมครั้งแรกในเทศกาลภาพยนตร์เวนิส (Venice Film Festival) ที่ผ่านมา หลังจากที่เราเห็นพลังทางการเมืองและอะดรีนาลีนแห่งฝรั่งเศสใน Les Misérable (2019) ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้ว คราวนี้ด้วยการซับพอร์ตจาก Netflix ก็ได้พาคุณไปสัมผัสกับสเกลที่อาจจะเล็กกว่านั้น แต่มันก็ทำให้คุณทึ่งในงานภาพและแทบจะไม่มีเวลาให้พักหายใจเลย
Athena มีเรื่องราวที่ครอบคลุมเกี่ยวกับลัทธิเชื้อชาติ ความไม่เท่าเทียม และความรุนแรงของตำรวจ ที่ได้สร้างความหายนะให้กับชาวชุมชนแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส เรื่องราวจะโฟกัสและติดตามเหล่าพี่น้องเชื้อสายแอลจีเรียที่อยู่ในการเคหะอเธน่าของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นชุมชนที่มีความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จากการตายของเด็กชายวัย 13 ปีที่ชื่อ Idir ที่เชื่อกันว่าเขาถูกตำรวจกลุ่มหนึ่งฆ่าตาย จากหลักฐานที่เห็นในคลิปวิดีโอไวรัล สิ่งนี้จึงทำให้พี่ชายของเขาทั้งสามคน จึงอยู่ไม่เป็นสุข ไม่ว่าจะเป็น Abdel (รับบทโดย Dali Benssalah) ผู้เป็นวีรบุรุษแห่งกองทัพที่ได้รับเหรียญรางวัลมามากมาย Moktar (รับบทโดย Ouassini Embarek) ผู้เป็นนักเลงค้ายารายสำคัญ และ Karim (รับบทโดย Sami Slimane) คนในท้องถิ่นที่โกรธแค้นต่อการสังหารในเชิงเหยียดชนชาติต่อน้องชายของเขา และเรื่องราวมันจึงปะทุขึ้นอย่างรวดเร็ว
เรื่องราวเริ่มต้นดูเหมือนจะสงบนิ่งต่อการจากไปของน้องชายของ Abdel ที่กำลังยืนแถลงข่าวโดยมีตำรวจและนักการเมืองขนาบข้าง เขากล่าวว่ากำลังรอฝ่ายตำรวจสืบสวนเพื่อนำตัวคนฆ่าน้องชายเขามารับโทษ และขอให้ผู้คนอยู่ในความสงบ “เพื่อระลึกถึง Idir เพื่อน้องชายผม ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ เราจะจัดงานเดินรำลึกในวันพรุ่งนี้” Abdel กล่าวปิดท้าย แต่ภายใต้ความเงียบสงบอันโศกเศร้านั้น ยังมี Karim และกลุ่มคนรุ่นใหม่แห่งอเธน่าที่สะสมความแค้นที่ท่วมท้นเอาไว้ เขาตัดสินใจเปิดฉากปะทะกับกองตำรวจด้วยการเขวี้ยงขวดน้ำมันจุดไฟแล้วบุกเข้าไปในสถานีตำรวจเพื่อขโมยเอกสารและอาวุธ และนับตั้งแต่หนังเปิดเรื่องมาในช่วงเวลา 10 นาทีแรก ความเดือดระทึกแบบไม่มีพักก็เกิดขึ้นแบบต่อเนื่องโดยไม่มีสั่งคัต!
แม้ว่ามนต์วิเศษในโลกภาพยนตร์ที่สะกดความสนใจให้แก่ผู้ชมอย่างเทคนิคการถ่ายแบบต่อเนื่องในหนึ่งเทค หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า Long Take จะไม่ใช่สิ่งใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น ทว่ามันเกิดขึ้นแบบชัดเจนครั้งแรกตั้งแต่ปี 1948 ในภาพยนตร์เรื่อง Rope ของ Alfred Hitchcock แต่ Athena ก็เลือกใช้เทคนิคนี้ในการเล่าเรื่องของสงครามขนาดย่อมนี้ และแม้ว่าสเกลของการถ่ายทำแบบ Long Take จะไม่ยิ่งใหญ่เท่า The Revenant (2015) หรือ 1917 (2019) แต่ก็นับว่าเป็นความกล้าหาญของทีมงานที่นำเอามุมมองที่เกี่ยวกับการเมือง เชื้อชาติ และความเสมอภาค ที่มันใกล้ชิดกับบริบทแบบปัจจุบันเป็นอย่างมาก มานำเสนอด้วยเทคนิคที่เชื่อว่ามันจะทำให้ดูสมจริงมากยิ่งขึ้น
ความตั้งใจที่จะถ่ายทำแบบต่อเนื่องโดยพยายามสั่งคัตให้น้อยที่สุด หรือก็เมื่อหนังตั้งใจจะเปลี่ยนการติดตามตัวละคร Athena ก็มีจุดที่พิสูจน์ศักยภาพที่มากกว่าการถ่ายทำในรูปแบบที่คลาสสิกเช่นนี้ ก็คือการสร้างสรรค์ฉากแอ็กชันการปะทะกันระหว่างตำรวจและชาวอเธน่าสุดอลังการและดูมีความคิดสร้างสรรค์ สิ่งที่ Athena มี คือสิ่งที่การก่อจลาจลในโลกนี้มี เราจะเห็นได้จากข่าวทั่วโลกของการปะทะกันระหว่างตำรวจกับม็อบในยุคใหม่ จะมีการใช้พลุไฟ ใช้ขวดน้ำมันที่จุดไฟ ในการต่อสู้กับอำนาจรัฐ นี่คือความเป็นร่วมสมัยที่จับต้องได้ในการเห็นครั้งแรก แต่สิ่งที่หนังได้ทำให้เราต้องทึ่งไปกับจินตนาการก็คือการที่ใช้ไอเดียออกแบบมันใหม่และทำให้มันสวยงาม ยกตัวอย่าง มีฉากหนึ่งที่ตำรวจสามารถบุกขึ้นไปในพื้นที่โล่งท่ามกลางชาวอเธน่า ก็ถูกยิงพลุไฟใส่ทุกทิศทางจนทำให้กลุ่มตำรวจต้องป้องกันด้วยโล่ที่ต้องเกาะกลุ่มกันจนทำให้เรานึกถึงยุทธวิธีในสงครามแบบกรีก-โรมันโบราณ หรือที่เคยเห็นในเรื่อง 300 (2007) นั่นเอง หากเราจะมองนัยยะที่แท้จริงของพลุไฟนั้น วัตถุประสงค์ของมันก็คือเพื่อให้เกิดความสวยงามถึงแม้ว่ามันจะมีความอันตรายอยู่ด้วยก็ตาม ก็คงไม่ต่างกับ Athena ที่ถึงแม้เรื่องราวลึกๆ จะดูรุนแรงและโหดร้ายแค่ไหน แต่พื้นผิวของมันก็ยังคงสวยงามด้านภาพและเทคนิคต่างๆ
ฉากต่อสู้ที่กล้าหาญและสวยงามนั้นก็ต้องเสียทรงไปด้วยบทภาพยนตร์ที่ดูเหมือนจะง่ายไปหน่อย อาจจะเพราะด้วยความตรงไปตรงมาที่อยากจะพูดถึงปัญหาในสังคมแบบชัดๆ อย่างการแปลงความแค้นให้กลายเป็นสงครามกลางเมืองผ่านเรื่องราวของพี่น้อง หรือการโยนตัวละครที่เป็นดั่งตัวแทนของฝ่ายอำนาจรัฐอย่าง Sébastien (รับบทโดย Alexis Manenti) ผู้เป็นตำรวจปราบปรามให้หลงจากกลุ่มเข้ามาติดอยู่ในอเธน่า หรือการทำให้อีกฝ่ายเป็นผู้ก่อการร้าย หรือการมีเบื้องหลังของทฤษฎีสมคบคิด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ Athena ได้หยิบมานำเสนอนั้นอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของข่าวรายวันที่มันเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก และในความเป็นมนุษย์มันก็อาจจะมีส่วนที่แมตช์และอาจจะซับซ้อนมากกว่าที่เห็นในหนัง แต่ความน่าอัศจรรย์ในเทคนิคการถ่ายทำเรื่องราวสุดระทึก มันก็ทำให้คุณสามารถจดจ่อกับมันได้จนจบเรื่อง