ดูหนังออนไลน์ SLR – กล้อง ติด ตาย ก็ตามชื่อเรื่องเลย กล้องถ่ายใครแล้วก็จะตาย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ แดน นักศึกษาที่กำลังทำโปรเจคจบ ถ้าเขาผ่านจะได้ทุนไปนิวยอร์คกับเพื่อนและคนรักของเขา เขาได้รับกล้องฟิล์ม SLR มารุ่นนึงจากอาจารย์ที่ปรึกษา ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022 โดยเขากำหนดให้แดนไปถ่ายรูปคนมา 7 คน แต่คนที่เขาถ่าย ดันเสียชีวิตอย่างปริศนา ความอาถรรพ์ของกล้องนี้จึงเริ่มต้นขึ้น กล้อง ติด ตาย (2022) SLR ดูหนัง
ดูหนังฟรี แต่ปัญหาคือตัวบท หลักเหตุและผลนอกจากจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลในหลายจุด การเกิดเรื่องราวก็ให้น้ำหนักน้อยเกินไปแบบอยากจะให้มีอันนี้ก็จับยัดมันแบบนี้เลยละกัน แทบจะไม่ให้รายละเอียดอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นหลักเกี่ยวกับตัวกล้องเลย เลยทำให้มันไม่ชวนน่าติดตามอยากรู้เรื่องราวเท่าไหร่ มิหนำซ้ำมันยังคาดเดาง่าย อารมณ์ของตัวละครหลักของแดนกับน้ำดูขึ้น ๆ ลง ๆ ปะติดปะต่ออารมณ์ตัวละครไม่ได้เท่าไหร่ โดยเฉพาะตัวละครของแดนมันไม่ค่อยบิ้วอัพอารมณ์ของตัวละคร มันเหมือนก้าวกระโดดข้ามขั้นมายังไงยังงั้น บางฉากก็กินเวลานานอย่างไม่จำเป็น หลายฉากก็รีบเกิ๊น ช่วยท้ายบทหาทางลงง่ายมาก บางซีนกลายเป็นดูตลกไปเลย
ทางด้านนักแสดง ก็ต้องบอกตามตรงว่าไม่มีใครแสดงได้อย่างว้าวจนโดดเด่น การแสดงของ นนน กรภัทร์ ถือว่ารับผิดชอบบทของตัวเองและแสดงออกทางสีหน้าได้น่าชื่นชม ตามมาด้วยการแสดงของ นนท์ ศดานนท์ ในบทเกรท ที่ก็อยู่ในระดับธรรมดาที่พอประคับประคองเรื่องราวให้ดำเนินต่อไปได้ แต่การแสดงของ เฌอปราง ดูไม่ธรรมชาติ และเคมีของเธอในบทน้ำก็โคตรจะไม่เข้ากับแดนเลย ยิ่งซีนอารมณ์ต่าง ๆ นี่คือไม่ผ่านอย่างแรง
แต่สิ่งที่ชื่นชอบที่สุดคงจะเป็นเรื่องของการเซ็ทฉากต่าง ๆ บางฉากนี่ว้าวมาก สวยเลย ทั้งซีนในบ้านของอาจารย์ หรือซีนในห้องจัดแสดงที่เป็นรูปภาพแดง ๆ รวมถึงฉากในกล้องบางฉากก็จัดแสงถ่ายออกมาได้ดี มุมกล้องก็ดี แต่ซีจียังคงลอย ๆ ในหลายจุดอย่างน่าเสียดายอยู่เหมือนกัน
มาต่อคิวกันด้วยอีกหนึ่งหนังไทย ที่เดี๋ยวนี้เสิร์ฟต่อเนื่องกันทุกสัปดาห์เลยทีเดียว ล่าสุดติดเทรนด์ฮอตตั้งแต่วันแรกกับ #ชวนดูSLRฉายวันแรก ที่เป็นการปรับโหมดมาสู่ความสะพรึงกลัวในหนังที่ดูเบื้องต้นแล้ว อาจจะรู้สึกซ้ำซากจำเจ กับ “SLR กล้อง ติด ตาย” แต่ขอบอกเอาไว้เลยว่า อย่าเพิ่งตัดสินหนังจากเพียงแค่ตัวอย่างและใบปิดหนังเลย เพราะจะว่าไปแล้วหนังเรื่องนี้ก็มีอะไรแอบซ่อนเอาไว้ที่ดีกว่าที่คิดเอาไว้ แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานไปสุด ๆ ปนเปอารมณ์ต่าง ๆ เต็มไปหมด แต่ก็พอที่จะเป็นหนังผีไทยที่แตกต่างและพอจะพาไปไหนมาไหนด้วยได้อยู่
SLR กล้อง ติด ตาย เป็นเรื่องราวของ แดน นักศึกษาหนุ่มคณะภาพถ่าย ที่สอบธีสิสกับอาจารย์เอมมาเป็นปีแล้ว แต่ยังไม่ผ่านเสียที จนในที่สุด อาจารย์เอมได้ให้กล้อง SLR ให้ถ่ายงานที่ดีที่สุดมาส่ง แดนกำลังจะค้นพบว่า มันเป็นบททดสอบของกล้องปีศาจ ซึ่งเขาไม่มีทางหนี นอกจากจะต้องเลือกว่าจะยอมตามมัน หรือจะสู้กับมัน และเขากำลังจะลากแฟนและเพื่อนของเขาอย่าง น้ำ และ เกรท เข้ามาร่วมชะตากรรมอันน่าสะพรึงกลัว ซึ่งรายล้อมไปด้วยความตายจากกล้องนรกนี้ด้วย
ผลงานเรื่องนี้เป็นฝีมือของ 2 ผู้กำกับหนุ่มรุ่นใหม่ “เลิศศิริ บุญมี” กับ “วุฒิชัย วงศ์นภดล” ที่พวกเขาแทบจะยังไม่มีชื่ออยู่ในวงการหนังไทยหรอก แต่ก็นับว่าเป็นการประเดิมเดบิวต์ผลงานเรื่องนี้ได้ค่อนข้างน่าพอใจอยู่ในระดับหนึ่ง เพราะส่วนหนึ่งเป็นการปลุกปั้นผลักดันของผู้กำกับมือฉมัง “โขม ก้องเกียรติ” ที่มารับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างและที่ปรึกษาให้กับหนังเรื่องนี้ด้วย เมื่อได้ครูที่ดี ผลงานออกมาจึงออกมาได้ในระดับที่พอถูไถไปได้
“SLR กล้อง ติด ตาย” มีฉากพิเศษท้ายเครดิตซ่อนเอาไว้หรือไม่…กระจ่างได้ที่นี่!
SLR กล้อง ติด ตาย ที่ถ้าใครได้เห็นทีเซอร์ แน่นอนว่าจะต้องพาให้นึกไปถึงหนังไทยในตำนานอย่าง ‘ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ’ อะไรประมาณนั้นใช่ไหม? แต่บอกไว้เลยว่า…หนังเรื่องนี้แตกต่างจากทิศทางนั้นอย่างสิ้นเชิง เดินกันคนละทาง และมีคอนเซ็ปต์คนละแบบ เพียงแค่ใช้วิชาการถ่ายรูปเข้ามาเป็นองค์ประกอบในการดำเนินเรื่องราวต่าง ๆ เหมือนกันเพียงเท่านั้น โดยหนังเรื่องนี้มีแก่นเรื่องและจุดประสงค์ที่ค่อนข้างแข็งแรงและชัดเจนดี
บอกตรง ๆ เลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่อะไรที่คาดเดาได้ยากเลย ทุกอย่างปูทางและเปิดทางเอาไว้ให้คนดูกระจ่างตั้งแต่ตอนปูเรื่อง พอจะคาดถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปไม่ยากเย็นหนัก แต่การหยิบเอาประเด็นความเชื่อที่ค่อนข้างทะเยอทะยาน แหวกแนวไปจากหนังผีไทยเดิม ๆ ตรงจุดนี้ต้องชื่นชมในกล้าหาญของหนังเรื่องนี้ เพราะนี่อาจจะเป็นประเด็นที่ค่อนข้างไกลตัวคนไทย และอาจจะทำให้คนดูไม่รู้สึกคล้อยตามไปด้วยซ้ำ แต่ถือว่าผู้สร้างมีจุดยืนในเจตนานี้ด้วยดี และได้ปรุงแต่งรสชาติออกมาได้ค่อนข้างแปลกใหม่กับวงการหนังไทย แต่ยังธรรมดา ๆ ไปเหมือนเทียบกับแวดวงหนังสากล
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้รู้สึกประทับใจใน SLR กล้อง ติด ตาย ก็น่าจะเป็นองค์ประกอบงานสร้างและดีไซน์ต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามาในหนัง โดยเฉพาะโปรดักชั่นดีไซน์ต่าง ๆ ทั้งฉากที่รู้สึกพิถีพิถันและแปลกตาจากหนังไทยเรื่องอื่น ๆ ดี การออกแบบมุมกล้องและแสงสีที่ใช้หนังเรื่องนี้ ผสมด้วยความเป็นหนังลึกลับอินดี้แบบฝรั่งหน่อย ๆ เข้าไป เป็นจุดเล็กน้อยที่ช่วยบิ้วท์อารมณ์ผู้ชมได้ค่อนข้างน่าสนใจ แม้ว่าจังหวะในการเล่าเรื่องของหนังจะค่อนข้างโดดไปมา และพลอยทำให้อารมณ์ไม่ต่อเนื่องอยู่เนือง ๆ บ่อยก็ตาม
อย่างที่ได้เกริ่นเอาไว้แล้วว่า วิธีการเล่าเรื่องในหนัง SLR กล้อง ติด ตาย ยังไม่ใช่สิ่งที่โปรดปรานโดยส่วนตัวสักเท่าไหร่นัก หนังยังมีจุดขาด ๆ เกิน ๆ อยู่เยอะแยะเต็มไปหมด ความพยายามที่จะกระตุกขวัญผู้ชมด้วยมุกเดิม ๆ อาจจะเป็นการสร้างความน่ารำคาญ หรือความสุดโต่งในการถ่ายทอดเรื่องราว ที่ยอมรับว่าเกือบจะไปได้สุด แต่ก็ยังรู้สึกว่าหนังยังเก้กังติดอยู่กลางทางอยู่บ้าง เป็นองค์ประกอบที่น่าเสียดาย ที่ตรงจุดนี้หนังยังไม่สามารถซื้อใจไปได้
ขณะที่นักแสดงของ ก็ถือว่าใช้งานนักแสดงเจนใหม่ที่เต็มไปด้วยศักยภาพทุกคน ไม่ว่าจะ “นนท กรภัทร์”, “เฌอปราง BNK48” หรือ “นนท์ ศดานนท์” พวกเขาทุ่มเทถ่ายทำบทบาทของตัวเองในหนังเรื่องนี้ได้เต็มที่ และหนังก็สามารถเกลี่ยบทให้กับทุกตัวละครนำได้ค่อนข้างดีใช้ได้ เพียงแต่มิติของคาแรกเตอร์ต่าง ๆ เหล่านั้นยังไม่ค่อยมีอะไรให้น่าสนใจเท่าไหร่ นอกจากแค่หนุ่มสาว 3 คนที่ต้องเผชิญหน้ากับความกลัวบนความเชื่อของพวกเขา ทั้งที่น่าจะสามารถเค้นออกมาได้มากกว่านี้ แต่ก็เหมือนว่าการแสดงยังอยู่ในจุดเซฟโซนไปสักหน่อย
ว่ากันว่า ปี 2565 วงการหนังไทยจะรุกตลาดกับกระแสจักรวาลหนังมอนสเตอร์ไทย ๆ ชุดใหญ่ แต่คงต้องบอกว่า SLR กล้อง ติด ตาย ก็น่าจะถูกยังอยู่ในจักรวาลนั้นไปด้วยเรื่องหนึ่งแล้ว เพราะมันไม่ใช่แค่เป็นหนังผี แต่ยังใส่ความสัตว์ประหลาดเอาไว้ในหนังเรื่องนี้ได้อย่างแยบยล ถึงได้บอกว่าเป็นความทะเยอทะยานที่ไม่ค่อยจะเคยเห็นในวงการหนังไทยมาก่อน มันเป็นการพัฒนาที่ดี เพียงแต่ยังต้องพัฒนาต่อไปอีกกว่านี้ แต่ก็นับว่าหนังไทยเรื่องนี้พยายามมาได้ค่อนข้างถูกทางในระดับหนึ่งแล้ว…
ดังนั้น จึงเป็นหนังแนว Psychological Thriller ที่พยายามเล่าถึงจิตวิญญาณและความขัดแย้งภายในจิตใจของมนุษย์ มากกว่าที่จะ Horror แถมยังมีความทะเยอทะยานที่จะอินเตอร์ และแหวกแนวจากหนังไทยทั่วไป กล่าวคือ แทนที่จะเป็นหนังผี แต่กลับเป็นหนังแนวปิศาจ ซาตาน และมอนสเตอร์เสียมากกว่า
ตัวเอกของเรื่องคือ “แดน” (นนน-กรภัทร์ จาก The Gifted) นักศึกษาหนุ่มด้านภาพถ่าย ที่สอบธีสิสกับอาจารย์เอม (อ้น–นพพันธ์) แต่ไม่ผ่านเสียที ในขณะที่เพื่อนสนิทของเขา “น้ำ” (เฌอปราง BNK48 จาก Homestay) และ “เกรท” (นนท์-ศดานนท์ จาก ดิวไปด้วยกันนะ) เรียนจบแล้ว และกำลังจะได้ไปเรียนต่อด้วยกันที่นิวยอร์ก ในที่สุด อาจารย์เอมได้ให้กล้อง SLR ตัวหนึ่งกับแดน และบอกให้เอากล้องตัวนี้ไปถ่ายงานมาใหม่ ต่อมาแดนได้ค้นพบว่า มันเป็นกล้องปีศาจ ถ่ายใคร คนนั้นก็ตาย เขาต้องเลือกว่าจะยอมถ่ายต่อให้จบเพื่อรักษาชีวิตและอนาคตทางการศึกษาของตนเองไว้ หรือจะล้มเลิกเพื่อรักษาชีวิตคนบริสุทธิ์เอาไว้
จะเห็นได้ว่า ผู้กำกับพยายามทำให้เป็นหนังกฎแห่งกรรมที่โมเดิร์น แน่นอนว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้ว่าจะยากดีมีจน ต้นทุนชีวิตคนเราไม่เท่ากัน แต่ทุกการกระทำของคนเรามีความหมาย ทุกเส้นทางที่เราเลือกล้วนมีผลกระทบ ไม่ใช่แค่กับตนเอง แต่ยังกระทบยังผู้อื่นด้วย ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม “SLR กล้อง ติด ตาย” จึงเป็นหนังสยองขวัญที่ตั้งคำถามกับทิศทางสังคมเชิงหนุ่มสาวว่าพวกเขาจะเติบโตไปทางไหน เส้นทางที่พวกเขาเลือกคือคำตอบว่าคน ๆ นั้นให้ค่ากับอะไรมากกว่ากัน โดย pain points หลักของเรื่อง คือสิ่งที่หนุ่มสาวหลายคนต้องประสบ นั่นคือเรื่องโอกาส ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการศึกษาหรืออาชีพการงาน
ส่วนที่เราไม่ชอบคือ เป็นหนังที่ยังมีบาดแผล มี subplot ที่ไม่จำเป็น มิติกับปมของตัวละครที่ไม่ได้รับการพัฒนาขัดเกลา บทและการตัดต่อมีบ้ง ๆ เบียว ๆ บ้าง และเคมีของนักแสดงนำยังไม่ค่อยเข้ากัน มีหนึ่งในสามคนที่เป็นตัวฉุดเกรดลงอย่างชัดเจน ในขณะที่ศดานนท์พยายามพยุงเกรดขึ้นแทบตาย (เสียดายฝีมือที่เขาไม่ได้เล่นเป็นตัวเอกสุด) และอีกอย่างที่ดึงเกรดลงคือ “ฉากตุ้งแช่ (jump scare)” กับ sound ที่พยายามยัดเยอะเกินไปจนดูไร้รสนิยม
อย่างไรก็ตาม โดยรวม ก็ออกมาดีเกินค่าเฉลี่ยหนังไทยมากอยู่ ไม่ได้ชอบแต่เชียร์ เพราะถือว่าแปลกใหม่ กล้าเล่นกล้าลอง โปรดักชั่นและซีจีถือว่าผ่าน ภาพสวย แต่ภาพสยองก็สยองแบบแหวะไปเลย ไม่แนะนำสำหรับคนขวัญอ่อนเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นแฟน ๆ นักแสดงนำ หรือเป็นนักดูหนังที่อยากสนับสนุนหนังไทยสักเรื่อง เราคิดว่า “SLR กล้อง ติด ตาย” ควรค่าที่จะได้รับแรงสนับสนุนนั้น